การประยุกต์ใช้ NFC เพื่อป้องกันการปลอมแปลงสินค้า

NFC-anti-counterfeiting

ปัจจุบันผู้คนหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เจ้าของสินค้าไม่จำเป็นต้องพบเจอหน้าลูกค้าในการขายสินค้าอีกต่อไป เพียงแค่ใช้ช่องทางออนไลน์ก็สามารถสื่อสารคุณสมบัติต่าง ๆ ของสินค้า พร้อมพูดคุยโต้ตอบกันได้เสมือนเจอหน้ากัน อีกทั้งยังเข้าถึงจำนวนผู้ซื้อได้มากขึ้นอีกด้วย ในมุมมองของผู้บริโภคเองการใช้ช่องทางออนไลน์ก็ทำให้การซื้อของมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น 

แต่ก็มีข้อกังขาเรื่องของที่มาของสินค้ากันอยู่บ้างว่าสินค้าที่ซื้อ-ขายกันอยู่นั้นผลิตโดยเจ้าของผู้ผลิตที่ต้องการจริงๆหรือไม่ ในเมื่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขายรายย่อยอาจไม่เคยได้สัมผัสหรือแม้แต่เห็นสินค้าของจริงก่อนชำระเงินเลยด้วยซ้ำ

เหตุนี้เองสินค้าลอกเลียนแบบมักสร้างมูลค่าความเสียหายจำนวนมากต่อทั้งผู้ผลิต ผู้ขายรายย่อยและผู้บริโภค จึงทำให้เกิดหลากหลายวิธีการที่ถูกนำมาใช้เพื่อทำให้สินค้านั้นสามารถถูกตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้ เช่น Serial Number, Barcode หรือ QR Code แต่วิธีเหล่านี้ ยังคงมีโอกาสที่จะถูกลอกเลียนแบบและทำซ้ำได้ไม่ยากลำบาก จึงยังไม่สามารถป้องกันของปลอมได้อย่างแท้จริง

หนึ่งในเทคโนโลยีที่จะช่วยให้สินค้าได้รับการยืนยันได้ว่าเป็นของแท้ และเป็นวิธีการที่ไม่สามารถคัดลอก เลียนแบบ หรือนำมาทำซ้ำโดยผู้ที่มีเจตนาต้องการปลอมแปลงสินค้าได้ ซึ่ง SIC ได้นำวิธีการสำคัญนั้นมาเป็นคุณสมบัติพิเศษในไมโครชิป NFC รุ่นหนึ่งที่มีเทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งเรียกว่า “Rolling Code” วันนี้เองเราจะนำเสนอวิธีการทำงานของคุณสมบัติพิเศษนี้ให้เข้าใจมากขึ้น

“Rolling Code” มีขั้นตอนการทำงานโดยสังเขปดังนี้

  1. UID (Unique Identifier) ของ chip ตัวนั้นๆ ถูกนำมาคำนวณด้วยวิธีการเฉพาะ ได้เป็น Rolling Code
  2. Rolling Code จะถูกส่งขึ้นไปยัง Server ผ่านทาง Reader ที่มาอ่านข้อมูลจากชิป NFC
  3. Server ตรวจสอบและถอดรหัสด้วยวิธีเฉพาะเพื่อให้ทราบว่าข้อมูลภายใน Rolling Code นั้นมาจากชิป ต้นสังกัดหรือไม่ ทำให้ทราบได้ทันทีว่าสินค้าชิ้นนั้นมาจากผู้ผลิตที่ถูกต้องหรือไม่
  4. โดย Rolling Code จะไม่สามารถใช้ซ้ำได้ ทุกครั้งที่ต้องการตรวจสอบสินค้า จะต้องใช้ Rolling Code ที่ Chip คำนวณขึ้นมาใหม่ หากมีการส่ง Rolling Code ที่เคยใช้แล้วไปยัง Server จะได้รับการแจ้งทันทีว่าไม่สามารถยืนยันสถานะของสินค้าได้ ทำให้ไม่สามารถลอก Rolling Code แล้วนำไปใช้ซ้ำได้
  5. ผู้บริโภคแค่เพียงใช้โหมดการทำงาน NFC บนโทรศัพท์มือถือ แตะเพื่ออ่านข้อมูลจากชิป NFC บนสินค้า ก็จะสามารถทราบได้ทันทีว่าสินค้านั้นเป็นของแท้หรือไม่

นอกจาก Rolling Code แล้ว ยังมีเทคนิคการตรวจสอบว่าบรรจุภัณฑ์นั้นได้ถูกเปิดแล้วหรือยัง โดยหากบรรจุภัณฑ์ได้ถูกเปิดแล้ว ชิปจะบันทึกข้อมูลนั้นเพื่อส่งให้ Server โดยจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่มีการตรวจสอบในครั้งแรกนั้นได้อีก ไม่ว่าจะพยายามปิดบรรจุภัณฑ์นั้นด้วยวิธีการใดก็ตาม คุณสมบัติพิเศษนี้เองที่เป็นการตอกย้ำถึงสินค้าที่ไม่อาจจะมีการปลอมแปลง สลับสับเปลี่ยนออกไปได้ และยืนยันสถานะของสินค้าว่ามาจากผู้ผลิต หรือผู้จำหน่ายสินค้าจริงๆ นั่นเอง 

โดยสรุปนวัตกรรมการป้องกันการปลอมแปลงนี้ สามารถนำมาใช้ร่วมกับหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยการนำไมโครชิป NFC ที่มีคุณสมบัติทั้ง Rolling Code และ Tamper Evidence Detection ไปใช้กับสินค้าโดยเฉพาะการจัดส่งสินค้าที่ขายจากร้านออนไลน์ ซึ่งนอกจากผู้บริโภคจะสามารถตรวจสอบสินค้าได้อย่างง่ายดายแล้ว ผู้ผลิตยังสามารถป้องกันความเสียหายจากการการปลอมแปลงสินค้าและป้องกัน การปลอมวิธีป้องกันการปลอม ได้อีกด้วย 

Share this post